การจัดการฮาร์ดแวร์

บทนี้จะมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการติดตั้ง, การตั้งค่า และการจัดการฮาร์ดแวร์ของชุดติดต่อสื่อสาร เช่น VOCOM

การใช้งานสาย USB อย่างปลอดภัย

ปลดสาย USB ออกจากชุด VOCOM เสมอเมื่อไม่ได้ใช้งาน

ห้ามเก็บสายโดยพันรอบชุด VOCOM

../images/T0137486.jpg

รัศมีการโค้งงอของสายต่ำสุดที่แนะนำอยู่ที่ประมาณ 6 ซม. (ดูข้อมูลเปรียบเทียบในซีดี)

../images/T0137487.jpg

VOCOM I

กำลังเชื่อมต่อ VOCOM I

เริ่มการทำงานโดยการเปิดใช้งานแล็ปท็อป และติดเครื่องรถ

ตรวจสอบว่าใช้สายเคเบิลที่ถูกต้องหรือไม่ คลาสผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันจะใช้อินเตอร์เฟสและสายอะแดปเตอร์สำหรับเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน ตารางด้านล่างจะแสดงว่าอินเตอร์เฟสและสายอะแดปเตอร์แบบใดที่สามารถใช้เพื่อเชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์แต่ละคลาสที่แตกต่างกันได้

หมายเหตุ: เนื้อหาในตารางอาจใช้ไม่ได้ในบางตลาด

โมเดล / อินเตอร์เฟส 88890300 88890020

FH(4) - FM(4) / FL(3) - FE(3)

88890253

88890026

FH – FM

88890306

88890027

FL - FE

88890253

88890026

PC => อินเตอร์เฟส

88890313

ไม่มีชิ้นส่วนอะไหล่ของ Volvo


โมเดล / อินเตอร์เฟส 88890300 8889020

สายเคเบิลสำหรับตั้งโปรแกรมโดยตรง

88890306 (สายเคเบิล FCI)

88890027

VMAC I,II,III / VE98 (6 ขา)

88890302 (88890315) + 88890257 (อะแดปเตอร์ 9 ขา ถึง 6 ขา)

88890034 + 88890257 (อะแดปเตอร์ 9 ขา ถึง 6 ขา)

US04 ถึง US10 (9 ขา)

88890302 > 88890315

88890034

US10 + OBD2013 และที่ใหม่กว่า

88890253

88890026

สายเคเบิล USB

88890313

สายเคเบิล USB แบบทั่วไป


กำลังติดตั้ง VOCOM I

นี่เป็นสิ่งที่ควรปรากฏขึ้นในครั้งแรกที่คุณเชื่อมต่อชุดสื่อสารกับคอมพิวเตอร์

รูปภาพในคำแนะนำในการติดตั้งใช้เป็นภาพประกอบเท่านั้น กล่องโต้ตอบและหน้าต่างแบบผุดขึ้นจริงอาจมีลักษณะแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ชุดติดต่อสื่อสารและ Windows รุ่นใด

หน้าต่างขนาดเล็กที่มุมล่างด้านขวาจะระบุว่า กำลังติดตั้งซอฟต์แวร์โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์

../images/T0093324.jpg

หลังจากนั้น จะปรากฏหน้าต่างป็อพอัพขนาดเล็กขึ้นที่มุมล่างขวา และระบุว่าได้ติดตั้งฮาร์ดแวร์ใหม่และพร้อมที่จะใช้งานแล้ว

../images/T0094165.jpg

คำอธิบายไฟ LED

ชุดติดต่อสื่อสารมีไฟ LED สีต่างๆ อยู่จำนวนหนึ่ง ไฟ LED เหล่านี้จะแสดงสถานะของชุดติดต่อสื่อสารและแจ้งการเตือนต่างๆ สำหรับภาพรวม โปรดดูตารางด้านล่างนี้

../images/T9079048.jpg

LED ไอคอน คำอธิบาย

สีเขียว

../images/T0093271.jpg

ชุดสื่อสารได้รับไฟฟ้าผ่านทางพอร์ท USB ไฟ LED กระพริบในระหว่างการสื่อสาร หากไฟ LED นี้ และข้อความสีแดง ความผิดพลาดร้ายแรง กะพริบ แสดงว่าซอฟต์แวร์ภายในมีข้อบกพร่องหรือหายไปหมดเลย ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ

สีเขียว

../images/T0093272.jpg

ชุดสื่อสารได้รับไฟฟ้าผ่านทางพอร์ท USB

สีน้ำเงิน

../images/T0093273.jpg

WLAN ทำงาน ไฟ LED จะแสดงความแรงของสัญญาณวิทยุ ความแรงต่างระดับต่างๆ ถูกระบุโดยการติดของไฟ LED ระหว่าง เปิด และ ปิด ยิ่งไฟ LED ติดถี่เท่าไหร่ แสดงว่าสัญญาณวิทยุยิ่งดี

สีเหลือง

../images/T0093275.jpg

LED จะติดสว่างเมื่อ SmartCable เชื่อมต่ออยู่

สีเหลือง

../images/T0093274.jpg

กรณีนี้อาจขึ้นอยู่กับเหตุการณ์สองเหตุการณ์:

  • มีการตรวจพบข้อผิดพลาดในชุดสื่อสาร สำหรับวิธีอ่านข้อมูล โปรดดูใน คำอธิบายรหัสข้อบกพร่อง เชื่อมต่อสาย USB ระหว่างคอมพิวเตอร์และชุดสื่อสารก่อนอ่านค่า ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่วิกฤติ
  • อุณหภูมิของชุดติดต่อสื่อสารอยู่นอกช่วงที่อนุญาต (-40°C (-40°F) ถึง +85°C (+185°F)) อุ่นหรือทำความเย็นชุดอุปกรณ์โดยการวางไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ

    หมายเหตุ: ถ้าชุดอุปกรณ์มีฟังก์ชัน WLAN ติดตั้งอยู่ ช่วงอุณหภูมิที่อนุญาตคือ 0°C (32°F) ถึง +45°C (113°F) เมื่อเชื่อมต่อสาย USB ระบบจะตัดการเชื่อมต่อ WLAN ออก และช่วงอุณหภูมิที่อนุญาตจะกลายเป็น -40°C (-40°F) ถึง +85°C (+185°F) แทน

สีแดง

../images/T0093276.jpg

มีการตรวจพบข้อผิดพลาดร้ายแรงในชุดสื่อสาร ดำเนินการดังต่อไปนี้:

  1. สำหรับวิธีอ่านข้อมูล โปรดดูใน คำอธิบายรหัสข้อบกพร่อง เชื่อมต่อสาย USB ระหว่างคอมพิวเตอร์และชุดสื่อสารก่อนอ่านค่า
  2. ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณสำหรับความช่วยเหลือ
  3. ถ้าต้องเปลี่ยนชุดสื่อสาร ให้ใช้การรับประกันอุปกรณ์เสริมปกติหากชุดสื่อสารมีอายุไม่ถึง 12 เดือน

หากไฟ LED นี้ และข้อความสีเขียว Power USB / Communication กะพริบ แสดงว่าซอฟต์แวร์ภายในมีข้อบกพร่องหรือหายไปหมดเลย ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ


LED ข้อความบนป้าย คำอธิบาย

สีเขียว

ไฟจ่าย USB / สื่อสาร

ชุดสื่อสารได้รับไฟฟ้าผ่านทางพอร์ท USB ไฟ LED กระพริบในระหว่างการสื่อสาร หากไฟ LED นี้ และข้อความสีแดง ความผิดพลาดร้ายแรง กะพริบ แสดงว่าซอฟต์แวร์ภายในมีข้อบกพร่องหรือหายไปหมดเลย ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ

สีเขียว

การให้ไฟฟ้าแก่ผลิตภัณฑ์

ชุดสื่อสารได้รับไฟฟ้าผ่านทางพอร์ท USB

สีน้ำเงิน

WLAN

WLAN ทำงาน ไฟ LED จะแสดงความแรงของสัญญาณวิทยุ ความแรงต่างระดับต่างๆ ถูกระบุโดยการติดของไฟ LED ระหว่าง เปิด และ ปิด ยิ่งไฟ LED ติดถี่เท่าไหร่ แสดงว่าสัญญาณวิทยุยิ่งดี

สีเหลือง

เตือนข้อผิดพลาด

มีการตรวจพบข้อผิดพลาดในชุดสื่อสาร สำหรับวิธีอ่านข้อมูล โปรดดูใน คำอธิบายรหัสข้อบกพร่อง เชื่อมต่อสาย USB ระหว่างคอมพิวเตอร์และชุดสื่อสารก่อนอ่านค่า ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่วิกฤติ

สีเหลือง

การเตือนอุณหภูมิ

อุณหภูมิของชุดติดต่อสื่อสารอยู่นอกช่วงที่อนุญาต (-40°C (-40°F) ถึง +85°C (+185°F)) อุ่นหรือทำความเย็นชุดอุปกรณ์โดยการวางไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ

หมายเหตุ: ถ้าชุดอุปกรณ์มีฟังก์ชัน WLAN ติดตั้งอยู่ ช่วงอุณหภูมิที่อนุญาตคือ 0°C (32°F) ถึง +45°C (113°F) เมื่อเชื่อมต่อสาย USB ระบบจะตัดการเชื่อมต่อ WLAN ออก และช่วงอุณหภูมิที่อนุญาตจะกลายเป็น -40°C (-40°F) ถึง +85°C (+185°F) แทน

สีแดง

ผิดพลาดรุนแรง

มีการตรวจพบข้อผิดพลาดร้ายแรงในชุดสื่อสาร ดำเนินการดังต่อไปนี้:

  1. สำหรับวิธีอ่านข้อมูล โปรดดูใน คำอธิบายรหัสข้อบกพร่อง เชื่อมต่อสาย USB ระหว่างคอมพิวเตอร์และชุดสื่อสารก่อนอ่านค่า
  2. ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณสำหรับความช่วยเหลือ
  3. ถ้าต้องเปลี่ยนชุดสื่อสาร ให้ใช้การรับประกันอุปกรณ์เสริมปกติหากชุดสื่อสารมีอายุไม่ถึง 12 เดือน

หากไฟ LED นี้ และข้อความสีเขียว Power USB / Communication กะพริบ แสดงว่าซอฟต์แวร์ภายในมีข้อบกพร่องหรือหายไปหมดเลย ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ


หมายเหตุ: ไฟ LED ทั้งหมดติดในระหว่างการเปิดชุดสื่อสาร นี่เป็นการตรวจสอบว่าไฟ LED ทั้งหมดทำงาน

Communication Unit Monitor

Communication Unit Monitor คือแอ็พพลิเคชันที่ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ของชุดสื่อสารตรงกันหรือไม่

ไอคอน สถานะของมอนิเตอร์ชุดสื่อสารในแถบงาน
../images/T0034796.jpg

แสดงผลเมื่อ Communication Unit Monitor แอ็คทีฟ

../images/T0034797.jpg

แสดงผลเมื่อซอฟต์แวร์ในชุดสื่อสารถูกอัพเดท


เมื่อเชื่อมต่อชุดสื่อสาร ระบบติดตามของของชุดสื่อสาร จะตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ในชุดสื่อสารและไดรเวอร์ทำงานร่วมกันได้หรือไม่ หากใช้ร่วมกันไม่ได้ จะมีข้อความแสดงขึ้นเพื่อแจ้งว่าต้องทำการอัพเดทซอฟต์แวร์

../images/T0034798.jpg

การตรวจหาข้อบกพร่อง

การวินิจฉัยความผิดปกติของการเชื่อมต่อ

  1. ต้องแน่ใจว่าได้บิดกุญแจของผลิตภัณฑ์ไปที่ตำแหน่งเปิดทำงานแล้ว (ตรวจสอบแผงหน้าปัดเพื่อให้แน่ใจว่าแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่เป็นปกติ)
  2. ตรวจสอบสายไฟของรถ (ต้องแน่ใจว่าขาทั้งหมดไม่โค้งงอ)
  3. ตรวจสอบว่าชุดติดต่อสื่อสารสามารถทำงานได้เป็นปกติ (โปรดดูเอกสารของชุดติดต่อสื่อสาร) สำหรับผู้ใช้ VOCOM (โปรดดู คำอธิบายไฟ LED):
    • ตรวจสอบว่าไฟ LED ทั้งหมดติดสว่างขึ้นเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเปิดการทำงานของชุดอุปกรณ์
    • เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับ USB เท่านั้น: ไฟ LED ของชุดอุปกรณ์ควรกะพริบ และตามด้วยไฟ LED "Power USB/ Communication" (กำลังไฟฟ้า USB/การติดต่อสื่อสาร)
    • เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับรถเท่านั้น: ไฟ LED ของชุดอุปกรณ์ควรจะกะพริบ และตามด้วยไฟ LED "Power Vehicle" (กำลังไฟฟ้าของรถ)
    • ถ้าไฟ LED "Critical Error" (ข้อผิดพลาดร้ายแรง) ติดสว่างขึ้น ต้องแน่ใจว่าได้ติดตั้ง Tech Tool เวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว
    • ถ้าไฟ LED "Error" (ข้อผิดพลาด) ติดสว่าง ให้อ่านคำอธิบายความผิดปกติ และทำการดำเนินการที่จำเป็น
  4. ลองใช้สายไฟของรถเส้นอื่น
  5. ลองใช้สาย USB เส้นอื่น
  6. ลองกับชุดติดต่อสื่อสารอีกชุดหนึ่งหรือกับเครื่อง PC อีกเครื่องหนึ่ง
  7. ถ้าใช้ WLAN ให้ตรวจสอบว่า WLAN สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ปรึกษาฝ่ายสนับสนุนด้าน IT ในพื้นที่ของคุณเพื่อทำการตรวจสอบขั้นสูงสำหรับ WLAN และอ่านคำแนะนำใน Tech Tool (ดูที่ โหมด WLAN)
  8. ถ้าวิธีการด้านบนทุกวิธีไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุน

ปัญหาที่พบโดยทั่วไป

ปัญหาต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ในบางครั้งขณะใช้งานชุดสื่อสาร 88890020:

  • เปิดเครื่อง — ชุดสื่อสารไม่เปิดเครื่องเมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น คอมพิวเตอร์บางเครื่องมีปัญหาในการจ่ายไฟฟ้าให้กับชุดสื่อสารผ่านทางสาย USB ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับสาย USB ที่ยาว 4 เมตร ซึ่งอาจทำให้แรงดันไฟฟ้าตกลง ในการแก้ปัญหานี้ โปรดเชื่อมต่อผลิตภัณฑ์สายไฟของผลิตภัณฑ์เข้ากับแหล่งจ่ายไฟของชุดสื่อสาร ถ้ายังไม่ทำงาน ให้เปิด "Device Manager" (ตัวจัดการอุปกรณ์) (แผงควบคุม/เครื่องมือสำหรับการดูแลระบบ/การจัดการคอมพิวเตอร์/ตัวจัดการอุปกรณ์) เพื่อดูว่ามีเครื่องหมายอัศเจรีย์ที่ด้านหน้าของชุดสื่อสารหรือไม่ คลิกขวาที่ชุดสื่อสาร และเลือก "Update Driver" (อัพเดทไดรฟ์เวอร์)
../images/T0093269.jpg

คำอธิบายรหัสข้อบกพร่อง

จะพบรหัสข้อบกพร่องสำหรับชุดสื่อสารในกล่องโต้ตอบ สถานะ คุณจะพบตัวเลือกสถานะเมื่อคุณได้เลือก การกำหนดค่า ของชุดสื่อสารผ่านทางกล่องโต้ตอบการตั้งค่า หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดู การตั้งค่า ตารางข้างล่างเป็นรายการรหัสความผิดปกติ สาเหตุของรหัสความผิดปกติและการดำเนินการแก้ไขรหัสความผิดปกติ

รหัสข้อผิดพลาด สาเหตุ การดำเนินการ

1

ข้อบกพร่องในหน่วยความจำแฟลชของโปรแกรม

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

2

ข้อบกพร่องในหน่วยความจำแฟลชของโปรแกรมเริ่มระบบ

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

3

ข้อบกพร่องในหน่วยความจำแฟลชของพารามิเตอร์

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

4

หน่วยความจำแฟลชของพารามิเตอร์ชำรุด

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

5

ข้อผิดพลาดของ RAM ภายใน

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

6

ข้อผิดพลาดของ RAM ภายนอก

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

7

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นเมื่อเข้าถึงชิป USB

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

8

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นเมื่อเข้าถึงเซ็นเซอร์อุณหภูมิ

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

9

ไม่สามารถเข้าถึงบัสแบบอนุกรม SDIO ได้

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

10

ไม่สามารถเข้าถึงบัสแบบอนุกรม SPI ได้

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

11

มีข้อบกพร่องใน CPU

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

12–19

มีข้อบกพร่องของฮาร์ดแวร์

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

20

ตรวจพบข้อบกพร่องของระบบจ่ายไฟโดยชุดสื่อสาร

ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟของชุดสื่อสารก่อน ถ้าแหล่งจ่ายไฟเป็นปกติ โปรดส่งชุดติดต่อสื่อสารไปรับการซ่อม

21

แรงดันไฟเลี้ยงต่ำเกินไป

ตรวจเช็คแรงดันไฟฟ้าที่ต่อไปยังชุดสื่อสาร

22

แรงดันไฟเลี้ยงสูงเกินไป

ตรวจเช็คแรงดันไฟฟ้าที่ต่อไปยังชุดสื่อสาร

23

อุณหภูมิต่ำเกินไป

เปิดชุดสื่อสารให้ทำงานล่วงหน้า แล้วลองอีกครั้ง

24–25

อุณหภูมิสูงเกินไป

ให้ชุดสื่อสารเย็นลงและลองอีกครั้ง

26–29

มีข้อบกพร่องในสภาพแวดล้อมรอบชุดสื่อสาร

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

30

ไม่มีแหล่งจ่ายไฟ USB

ตรวจสอบสาย USB ถ้าเป็นปกติ โปรดส่งชุดติดต่อสื่อสารไปรับการซ่อม

31

ไฟกระชากที่พอร์ต USB #1

ชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต 1 ใช้ไฟมากเกินไปและถูกปิดการทำงานแล้ว

32

ไฟกระชากที่พอร์ต USB #2

ชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต 2 ใช้ไฟมากเกินไปและถูกปิดการทำงานแล้ว

33

ไม่รองรับชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต #1

ซอฟต์แวร์นี้ไม่รองรับชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต 1 เปลี่ยนซอฟต์แวร์หรือหาชุดที่รองรับ

34

ไม่รองรับชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต #2

ซอฟต์แวร์นี้ไม่รองรับชุดอุปกรณ์ USB ที่พอร์ต 2 เปลี่ยนซอฟต์แวร์หรือหาชุดที่รองรับ

35–39

มีข้อบกพร่องในการเชื่อมต่อ USB

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

40

ไม่สนับสนุนการ์ด SD

เปลี่ยนการ์ด SD

41

ข้อบกพร่องเมื่อเข้าถึงการ์ด SD

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นขณะอ่านหรือเขียนข้อมูลลงในการ์ด SD เปลี่ยนการ์ด SD

42

การ์ด SD เต็ม

ลบข้อมูลจากการ์ด SD หรือเปลี่ยนไปใช้การ์ดอื่น

43–49

มีข้อบกพร่องเกิดขึ้นกับการ์ด SD

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

50

ไม่มีการ์ด WLAN

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

51

การ์ด WLAN ทำงานไม่ถูกต้อง

ส่งชุดสื่อสารเพื่อทำการซ่อม

52

ไม่มีสถานีแม่ข่ายที่สามารถเข้าถึงได้

ย้ายชุดสื่อสารไปยังตำแหน่งที่มีการรับสัญญาณชัดเจนกว่า

53

สัญญาณ WLAN อ่อนเกินไป

ย้ายชุดสื่อสารไปยังตำแหน่งที่มีการรับสัญญาณชัดเจนกว่า

54

ตัวจัดการ WLAN ตรวจพบข้อบกพร่อง

เริ่มการทำงานของชุดสื่อสารอีกครั้ง

55

ตรวจพบข้อบกพร่องในระหว่างการตรวจสอบเครือข่าย

ตรวจสอบการตั้งค่า และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่ายมีการกำหนดค่าพารามิเตอร์ที่ถูกต้อง

56–59

ตัวจัดการ WLAN ตรวจพบข้อบกพร่อง

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

60

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบ

ตรวจสอบวิธีการตรวจสอบและรหัสความปลอดภัยดังกล่าว

61

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการเข้ารหัส

ตรวจสอบวิธีการเข้ารหัสและรหัสความปลอดภัยดังกล่าว

62–65

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในระบบจัดการความปลอดภัย

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

66

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นเมื่อเข้าถึงพอร์ต TCP/IP

พอร์ทอาจถูกเปิดให้รับ-ส่งข้อมูลอยู่แล้ว เริ่มการทำงานของชุดสื่อสารอีกครั้ง

67

มีความขัดแย้งของ TCP/IP ในเครือข่าย

เปลี่ยนหมายเลข TCP/IP เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้

68

เกินกำหนดเวลาในระหว่างรอแพคเก็ต TCP/IP

การสื่อสารเสียหาย รหัสข้อบกพร่องนี้ใช้สำหรับการตรวจหาข้อบกพร่องเท่านั้น ดำเนินการต่อไปโดยใช้ชุดสื่อสารตามปกติ

69

มีการรายงานข้อบกพร่องจากสแต็ค TCP/IP

เริ่มการทำงานของชุดสื่อสารอีกครั้ง

70–75

มีข้อบกพร่องที่เกี่ยวกับสแต็ค TCP/IP

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม

76

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในการสื่อสารของ SAE J1708

ตรวจหาการลัดวงจรในเครือข่าย ถ้าไม่มี ให้เปลี่ยนชุดติดต่อสื่อสาร

77

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในการสื่อสารของ ISO 9141

ตรวจหาการลัดวงจรในเครือข่าย ถ้าไม่มี ให้เปลี่ยนชุดติดต่อสื่อสาร

78

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในการสื่อสารของ ISO 9141 5 โวลต์

ตรวจหาการลัดวงจรในเครือข่าย ถ้าไม่มี ให้เปลี่ยนชุดติดต่อสื่อสาร

79

ข้อบกพร่องเกิดขึ้นในการสื่อสารของ CAN

ตรวจหาการลัดวงจรในเครือข่าย ถ้าไม่มี ให้เปลี่ยนชุดติดต่อสื่อสาร

80

ID เข้าสู่ระบบไม่ถูกต้อง

ป้อนรหัส ID เข้าสู่ระบบไม่ถูกต้อง เมื่อเริ่มระบบการสื่อสาร

81–89

มีข้อบกพร่องโดยทั่วไปเกิดขึ้น

ติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติม


VOCOM II

ฮาร์ดแวร์ VOCOM II

../images/T0123698.jpg

การติดตั้ง VOCOM II

เชื่อมต่ออุปกรณ์ VOCOM II เข้ากับช่องเสียบ USB ของเครื่อง PC อุปกรณ์จะพร้อมสำหรับการติดต่อสื่อสารเมื่อไฟ LED แสดงสถานะการติดต่อสื่อสารของเครื่อง PC ติดสว่างเป็นสีเขียว

เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ VOCOM II ใหม่เป็นครั้งแรก การตั้งค่าไดรเวอร์ของอุปกรณ์ Windows จะทำงาน:

../images/T0123700.jpg

หมายเหตุ: เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ VOCOM II เป็นครั้งแรก การติดตั้งอุปกรณ์อาจใช้เวลาหลายนาที เนื่องจากคุณสมบัติ "การติดตั้งไดรเวอร์" โดยเฉพาะของ Windows

ในระหว่างการติดตั้งไดรเวอร์ของอุปกรณ์ คุณจะเห็นการแจ้งด้วยแถบงานที่สอดคล้องกัน ถ้าการติดตั้งไดรเวอร์ของอุปกรณ์เป็นผลสำเร็จ การแจ้งด้วยแถบงานจะแสดงขึ้น:

../images/T0123701.jpg

../images/T0123699.jpg

ถ้าไม่สามารถติดตั้งไดรเวอร์ของอุปกรณ์ได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ให้ลองอีกครั้งโดยการปลดสาย VOCOM II ออกจากช่องเสียบ USB และต่อเข้ากับช่องเสียบ USB ช่องอื่น หรือลองเริ่มระบบของเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่

หมายเหตุ: เพื่อให้ฮาร์ดแวร์ VOCOM II สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง จะต้องตั้งกฎสำหรับไฟร์วอลล์ต่อไปนี้ สำหรับไฟร์วอลล์มาตรฐานของ Windows ตัวติดตั้ง VOCOM II Windows จะเพิ่มกฎเหล่านี้โดยอัตโนมัติในระหว่างกระบวนการติดตั้ง

กฎ การตั้งค่า
VOCOM II CAST
  • ทิศทาง: ขาเข้า
  • โปรโตคอล: UDP
  • พอร์ต: 427
VOCOM II HTTP
  • ทิศทาง: ขาออก
  • โปรโตคอล: TCP
  • พอร์ต: 80
VOCOM II RP1210
  • ทิศทาง: ขาออก
  • โปรโตคอล: TCP
  • พอร์ต: 27015
VOCOM II J2534
  • ทิศทาง: ขาออก
  • โปรโตคอล: TCP
  • พอร์ต: 2534
IPv6 เปิดใช้งานแล้ว

แอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II

แอพพลิเคชั่นการกำหนดค่าจะมีคุณสมบัติทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการกำหนดค่าและการอัพเดตอุปกรณ์ VOCOM II

แอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II เริ่มจาก การตั้งค่า >ชุดติดต่อสื่อสาร แท็บ > การกำหนดค่า หรือจากเมนู Windows Start: เริ่มต้น > โปรแกรมทั้งหมด > แอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II

ท่านสามารถเข้าถึง การตั้งค่า จากเมนู Tech Tool หรือจากทางลัดในแถบเครื่องมือ Tech Tool ที่อยู่ในแท็บ  ผลิตภัณฑ์ 

สำหรับอุปกรณ์ VOCOM II แต่ละอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน จะมีรายการอุปกรณ์รายการเดียวที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ:

  • รุ่นของผลิตภัณฑ์
  • หมายเลขผลิตภัณฑ์
  • ชื่ออุปกรณ์
  • ประเภทการเชื่อมต่อ (USB: สัญลักษณ์รูปสายไฟ, WLAN: สัญลักษณ์รูปวิทยุ)
  • สถานะการจับคู่
  • สถานะของอุปกรณ์
  • สถานะการอัพเดตซอฟต์แวร์
../images/T0137623.jpg

อุปกรณ์ VOCOM II แต่ละอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานจะแสดงอยู่ใน 'รายการอุปกรณ์' ที่จะแสดงขึ้นอยู่ตลอดเวลาทางด้านซ้ายของแอพพลิเคชั่น

หมายเหตุ: นี่เป็นแท็บเริ่มต้นเมื่อเปิดแอพพลิเคชั่น หรือเมื่อเลือกอุปกรณ์อื่นในรายการ

หมายเหตุ: รายการอุปกรณ์จะได้รับการอัพเดตอยู่ตลอดเวลา และจะอัพเดตประเภทการเชื่อมต่อเมื่อประเภทของการเชื่อมต่อเปลี่ยนแปลงไป หรือแสดงอุปกรณ์ใหม่เมื่ออุปกรณ์นั้นพร้อมใช้งาน

การอัพเดตเฟิร์มแวร์

เฟิร์มแวร์จะอัพเดตอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน USB และขณะที่เฟิร์มแวร์อัพเดตเสร็จ จะมีข้อความแจ้งให้ทราบในแถบเครื่องมือ

หมายเหตุ: อย่าปลดขั้วต่อ VOOCOM II ในระหว่างการอัพเดตเฟิร์มแวร์

การตั้งค่า VOCOM II แบบพื้นฐาน

หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า VOCOM II เชื่อมต่ออยู่กับ USB และพร้อมทำงาน

เปิดแอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II และทำการตั้งค่าอุปกรณ์แบบพื้นฐาน การตั้งค่าอุปกรณ์ VOCOM II แบบพื้นฐานประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:

  • การกำหนดชื่ออุปกรณ์
  • การแม็ป ID ของอุปกรณ์สำหรับ RP1210 (เลือกได้)
  • การจับคู่อุปกรณ์กับเครื่อง PS ที่เป็นโฮสต์ในพื้นที่

ชื่ออุปกรณ์

สามารถตั้งชื่อแบบกำหนดเองให้แก่อุปกรณ์แต่ละตัวเพื่อช่วยในการระบุอุปกรณ์นั้นๆ ได้

โดยค่าเริ่มต้น ชื่ออุปกรณ์ จะถูกตั้งเป็น Vocom2-[หมายเลขลำดับการผลิต] เช่น Vocom2–12345678

ในการเปลี่ยน ชื่ออุปกรณ์ คุณจำเป็นต้อง:

  1. คลิกปุ่ม 'แก้ไข'
    ../images/T0139364.jpg

  2. ป้อน ชื่ออุปกรณ์ ที่ต้องการ
    ../images/T0139365.jpg

  3. คลิกปุ่ม 'บันทึก'
    ../images/T0139366.jpg

หมายเหตุ: ชื่ออุปกรณ์ จะแสดงขึ้นใน 'รายการอุปกรณ์'

การแม็ป DeviceID สำหรับ RP1210

การแม็ปอุปกรณ์ RP1210 เป็นตัวเลือกที่จะทำหรือไม่ก็ได้ การกำหนด RP1210 DeviceID ให้กับอุปกรณ์ VOCOM II ที่เชื่อมต่ออยู่สามารถทำได้ดังต่อไปนี้:

  1. เปิดหน้า 'การแม็ป' แล้วเลือกอุปกรณ์ VOCOM II ที่เชื่อมต่ออยู่
  2. ตามค่าเริ่มต้นนั้น อุปกรณ์ VOCOM II ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เป็นอุปกรณ์แรกจะได้รับการกำหนดให้เป็น DeviceID 1 และอุปกรณ์ VOCOM II ที่เชื่อมผ่าน WLAN เป็นอุปกรณ์แรกจะได้รับการกำหนดให้เป็น DeviceID 2 ในขณะที่ DeviceID 3 ถึง 8 จะยังไม่มีการกำหนดไว้เมื่อเริ่มต้น
  3. หลังจากการแม็ปเริ่มต้นเสร็จแล้ว คุณสามารถใช้ DeviceID 2 ใน RP1210_ClientConnect เพื่อเปิดการเชื่อมต่อการวินิจฉัยข้อบกพร่องเข้ากับอุปกรณ์นี้ เมื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ากับเครื่อง PC ที่เป็นโฮสต์โดยผ่านทาง WLAN
  4. ถ้าคุณเปลี่ยนพารามิเตอร์ 'โหมด' ของการแม็ปนี้เป็น 'ใดๆ' คุณจะสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์นี้ (ผ่าน DeviceID 2) เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน USB ได้อีกด้วย

หลังจากเปลี่ยนตาราง 'การแม็ปอุปกรณ์' ให้คลิก บันทึก แล้วคลิก ปิด ไม่จำเป็นต้องเริ่มการทำงานใหม่

ผู้ใช้ Tech Tool ไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ ใน 'การแม็ปอุปกรณ์' Tech Tool จะใช้ DeviceID 1 เสมอ

การจับคู่อุปกรณ์กับเครื่อง PS ที่เป็นโฮสต์ในพื้นที่

ในการทำการติดต่อสื่อสารเพื่อทำการวินิจฉัยข้อบกพร่องโดยใช้ RP1210 และการอัพเดตซอฟต์แวร์ผ่าน WLAN อุปกรณ์ VOCOM II อุปกรณ์นั้นจะต้องได้รับการจับคู่กับเครื่อง PC ที่เป็นโฮสต์

หมายเหตุ: การจับคู่ (อีกครั้ง) จะสามารถทำได้กับอุปกรณ์ VOCOM II ที่เชื่อมต่อผ่าน USB เท่านั้น

  1. คลิกปุ่ม 'แก้ไข'
    ../images/T0139364.jpg

  2. คลิกปุ่ม 'จับคู่'
    ../images/T0139367.jpg

  3. ป้อนชื่อคอมพิวเตอร์ของคุณ (ชื่อไคลเอนต์) โดยค่าเริ่มต้น จะใช้ชื่อคอมพิวเตอร์ Windows ของคุณ
    ../images/T0124144.jpg

หมายเหตุ: คอมพิวเตอร์ที่จับคู่ไว้แล้วในปัจจุบันจะแสดงขึ้นบนแถบสถานะสีดำในช่องข้อมูล 'ID ของไคลเอนต์' เสมอ

รายการข้อผิดพลาดของอุปกรณ์

รหัสข้อผิดพลาดของอุปกรณ์สามารถดูได้ในแท็บ สถานะ

../images/T0139363.jpg

การตั้งค่า WLAN

หมายเหตุ: โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า VOCOM II เชื่อมต่ออยู่กับ USB และพร้อมทำงาน

เปิดแอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II และทำการกำหนดค่า WLAN ในการเปิดหน้า 'การกำหนดค่า WLAN' ของอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง คุณจำเป็นต้องทำขั้นตอนต่อไปนี้:

  • เปิดรายการ 'อุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน' ในแอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II
  • เลือกอุปกรณ์ VOCOM II ที่คุณต้องการกำหนดค่าสำหรับการทำงานของ WLAN
  • ในหน้า 'เนื้อหาของอุปกรณ์' ให้คลิก การเชื่อมต่อ
  • หน้า 'การกำหนดค่า WLAN' จะแสดงขึ้น:
    • โดยปกติแล้ว โหมด 'โครสร้างพื้นฐานของ WLAN' จะใช้ในสภาพแวดล้อมศูนย์บริการที่มีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว
    • โหมด 'WLAN โดยตรง' ใช้เมื่อแล็ปท็อปจำเป็นต้องเชื่อมต่อโดยตรงเข้ากับอุปกรณ์ VOCOM II ผ่าน WLAN เช่น เมื่อใช้ในภาคสนามโดยไม่มีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

      หมายเหตุ: WiFi-Direct เป็นคุณสมบัติสำหรับแพลตฟอร์มไคลเอนต์อื่น (เช่น Android) และไม่ควรใช้บนแพลตฟอร์ม Windows เนื่องจากยังไม่มีการสนับสนุนที่เหมาะสมในขณะนี้


      ../images/T0139368.jpg

หมายเหตุ: การเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า WLAN จะสามารถทำได้หลังจากที่ได้เริ่มการทำงานของอุปกรณ์ใหม่แล้วเท่านั้น

หลังจากการกำหนดค่าชุดอินเตอร์เฟส VOCOM II WLAN และเริ่มการทำงานของอุปกรณ์ใหม่แล้ว ให้ถอดสาย USB ตรวจสอบให้แน่ใจว่า VOCOM II ได้รับกำลังไฟฟ้าจากขั้วต่อ ECTA/OBD

  • ไฟแสดง VBAT (สัญลักษณ์รูปแบตเตอรี่) ควรติดสว่างเป็นสีเขียว
  • ไฟแสดง WLAN (สัญลักษณ์รูปเสาอากาศ) ควรติดสว่างเป็นสีฟ้า
  • ไฟแสดงความแรงของสัญญาณ WLAN (แถบไฟ LED) ควรติดสว่างขึ้น

เมื่อทำการเชื่อมต่อ WLAN สำเร็จแล้ว ความแรงของสัญญาณ WLAN จะแสดงโดยใช้แถบไฟ LED 4 แถบ

กิจกรรม WLAN RX/TX จะแสดงโดยการกะพริบไฟแสดงสถานะของ WLAN และสถานะการติดต่อสื่อสารของเครื่อง PC

โหมด 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN'

ในหน้า 'การกำหนดค่า WLAN' ของแอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II ให้เลือก โครงสร้างพื้นฐาน แล้วคลิกกล่องรายการแบบหล่นลง การตั้งค่าเครือข่าย การตั้งค่า 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN' ในขณะนี้จะแสดงขึ้น

ป้อนชื่อของเครือข่าย WLAN ของคุณ (นั่นคือ SSID ของเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว) ลงในช่องข้อมูล ชื่อ / SSID ของเครือข่าย ของหน้า 'การกำหนดค่าโครงสร้างพื้นฐานของ WLAN'

จากเมนู การเข้ารหัส และ การตรวจสอบความถูกต้อง ให้เลือกชุดของวิธีการเข้ารหัสและวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของ WLAN ที่รองรับโดยของเครือข่ายของคุณ

การตั้งค่าเริ่มต้นคือ WPA+WPA2 / WPA-PSK สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องด้วยรหัสผ่านและการเข้ารหัส ซึ่งโดยปกติแล้วใช้สำหรับเครือข่ายไร้สาย "ส่วนบุคคล" โหมด 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN' นี้โดยปกติเรียกว่า “WPA-Personal”

วิธีการตรวจสอบความถูกต้อง/การเข้ารหัสที่พร้อมใช้งาน/สามารถกำหนดค่าได้อื่นๆ สำหรับโหมด 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN' คือ EAP-TLS และ EAP-PEAP ซึ่งเป็นการตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้ใบรับรองโดยผ่านทางเซิร์ฟเวอร์ส่วนกลาง ที่โดยปกติแล้วใช้สำหรับเครือข่ายของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้น โหมดโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ โดยปกติจะเรียกว่า “WPA Enterprise”

การตั้งค่าเครือข่ายสำหรับ WPA-PSK

สำหรับโหมด WPA-Personal จะจำเป็นต้องตั้งค่าพารามิเตอร์เครือข่ายดังต่อไปนี้

ชื่อ / SSID ของเครือข่าย

ชื่อ (SSID) ของเครือข่าย

การเข้ารหัส

ควรตั้งเป็น WPA + WPA2

การตรวจสอบความถูกต้อง

จะต้องตั้งเป็น WPA-PSK

รหัสผ่าน

รหัสผ่านของเครือข่าย (รหัสที่แชร์ไว้ล่วงหน้า)


การตั้งค่าเครือข่ายสำหรับ EAP-TLS / EAP-PEAP

สำหรับโหมด WPA-Enterprise จะจำเป็นต้องตั้งค่าพารามิเตอร์เครือข่ายดังต่อไปนี้

ชื่อ / SSID ของเครือข่าย

ชื่อ (SSID) ของเครือข่าย

การเข้ารหัส

ควรตั้งเป็น WPA + WPA2

การตรวจสอบความถูกต้อง

จะต้องตั้งเป็น EAP-TLS หรือ EAP-PEAP ถ้าจำเป็น ให้ถามผู้ดูแลระบบเครือข่ายของคุณว่าประเภทการตรวจสอบความถูกต้องของเครือข่ายของคุณรองรับคือประเภทใด

ไฟล์ใบรับรอง

ใบรับรองไคลเอนต์แบบเข้ารหัสในรูปแบบ PKCS12

รหัสผ่านของใบรับรอง

รหัสผ่านสำหรับการถอดรหัสใบรับรองไคลเอนต์ ถ้าจำเป็นต้องใช้รหัสผ่านสำหรับใบรับรอง

ชื่อผู้ใช้

ผู้ใช้ / ตัวตนที่ออกใบรับรองให้


หมายเหตุ: สำหรับการกำหนดค่า EAP-TLS ช่องข้อมูลรหัสผ่านของหน้า 'การตั้งค่าเครือข่าย' จะต้องว่างเปล่า

ในการอัพโหลดและติดตั้งใบรับรองไคลเอนต์ที่เลือกบน VOCOM II (ซึ่งจำเป็นต้องใช้ใบรับรองนี้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องในภายหลังบนเซิร์ฟเวอร์ Radius ของเครือข่าย) คลิกปุ่ม ใบรับรอง/ติดตั้ง

หลังจากการอัพเดตและการติดตั้งใบรับรองบน VOCOM II เป็นผลสำเร็จแล้ว ใบรับรองไคลเอนต์ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบันจะแสดงรายการอยู่ในหน้า 'การตั้งค่าเครือข่าย'

การตั้งค่าที่อยู่ IP

การคลิกแถบรายการแบบหล่นลง การตั้งค่า IP จากภายในการตั้งค่า 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN' จะเป็นการแสดงพารามิเตอร์การกำหนดค่าการกำหนดที่อยู่ IPv4 และ IPv6 สำหรับชุดอินเตอร์เฟส VOCOM II WLAN สำหรับการทำงานของโหมด 'โครงสร้างพื้นฐาน'

DHCP เป็นวิธีการกำหนดที่อยู่ IPv4 และ IPv6 เริ่มต้นในโหมด 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN'

หมายเหตุ: เราเตอร์เครือข่ายของคุณจำเป็นต้องรองรับ DHCP ในกรณีนี้

  • การกำหนดที่อยู่ IPv4 และ/หรือ IPv6 แบบคงที่สามารถทำได้โดยการเลือก ใช้ที่อยู่ IP จากแถบรายการแบบหล่นลงของโปรโตคอล IPv4 และ/หรือโปรโตคอล IPv6
  • ช่องข้อมูล เกตเวย์ จะใส่ข้อมูลหรือไม่ก็ได้ และสามารถเว้นว่างไว้ได้ โดยปกติแล้ว ช่องข้อมูล เกตเวย์ จะตั้งเป็นที่อยู่ IP หรือ DNS ของเราเตอร์
  • ช่องข้อมูล Nameserver จะใส่ข้อมูลหรือไม่ก็ได้ และสามารถเว้นว่างไว้ได้ ช่องข้อมูล Nameserver เป็นช่องที่จำเป็นเมื่อใช้ชื่อ DNS เป็น เกตเวย์ นอกจากนั้น ยังใช้ร่วมกับการตั้งค่า 'โหมด VG ไร้สาย' อีกด้วย

ในกรณีของโปรโตคอล IPv4 จะมีตัวเลือกการกำหนดที่อยู่ IP ชุดที่สาม: APIPA (Automatic Private IP Addressing)

ในกรณีนี้ ชุดอินเตอร์เฟส VOCOM II WLAN จะได้รับการกำหนดที่อยู่ IPv4 แบบเชื่อมโยงภายในพื้นที่ จากช่วงที่อยู่ 169.254.x.x (ที่สำรองไว้)

การกำหนดที่อยู่ IP แบบใช้ APIPA ควรใช้สำหรับโหมด 'โครงสร้างพื้นฐานของ WLAN' เมื่อเราเตอร์เครือข่ายของคุณไม่รองรับ DHCP และคุณไม่ต้องการกำหนดที่อยู่ IPv4 แบบคงที่

หมายเหตุ: หลังจากเปลี่ยนการตั้งค่า WLAN ให้คลิก บันทึก แล้ว เริ่มการทำงานใหม่ เพื่อตั้งการกำหนดค่า WLAN ใหม่บนอุปกรณ์ VOCOM II และเพื่อเริ่มการทำงานของชุดอินเตอร์เฟส WLAN ด้วยการตั้งค่าใหม่

โหมด WLAN แบบเชื่อมต่อตรง

เมื่อ VOCOM II อยู่ในโหมด WLAN Direct VOCOM II จะสร้างเครือข่ายไร้สายของตัวเองที่คุณสามารถใช้ในการเชื่อมต่อกับเครื่อง PC ของคุณได้

หมายเหตุ: โหมด 'โดยตรง' สามารถรองรับได้เฉพาะช่วงความถี่ 2.4 GHz เท่านั้น

ในการกำหนดค่าชุดอินเตอร์เฟส VOCOM II WLAN สำหรับการทำงานของโหมด 'โดยตรง' คุณจำเป็นต้องทำขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ VOCOM II เชื่อมต่ออยู่กับ USB
  2. เลือกอุปกรณ์ VOCOM II จากรายการ อุปกรณ์ที่พร้อมใช้งาน
  3. เปิดการตั้งค่า การเชื่อมต่อ แล้วเลือก โหมด WLAN — โดยตรง

สำหรับโหมด 'WLAN โดยตรง' จะจำเป็นต้องตั้งค่าพารามิเตอร์ต่อไปนี้:

การตั้งค่าเครือข่าย

SSID

ชื่อที่สามารถกำหนดโดยผู้ใช้ได้สำหรับเครือข่าย VOCOM II จะถูกสร้างขึ้น นี่เป็นชื่อที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะมองว่าเป็นชื่อเครือข่ายเมื่อทำการค้นหาเครือข่ายที่จะทำการเชื่อมต่อ

SSID การกระจายสัญญาณ

เปิดใช้งาน/ปิดใช้งานการกระจายสัญญาณ SSID ถ้าปิดใช้งานไว้ เครื่องคอมพิวเตอร์จะตรวจไม่พบเครือข่าย ซึ่งจำเป็นต้องป้อนชื่อ SSID ในแบบเมนนวล

ช่องสัญญาณ

ช่องสัญญาณ WLAN 2.4 GHz ที่จะใช้

ไคลเอนต์

พารามิเตอร์ที่เป็นตัวเลือก, จำนวนไคลเอนต์สูงสุด, 0 หมายถึง: ไม่จำกัด

รหัสผ่าน

รหัสผ่านที่ผู้ใช้กำหนดเองได้สำหรับเครือข่ายที่ VOCOM II สร้างขึ้น ควรใช้รหัสผ่านนี้เมื่อเชื่อมต่อเครื่อง PC เข้ากับเครือข่ายที่ VOCOM II สร้างขึ้น

การตั้งค่า IP

การกำหนดค่าเครือข่าย IPv4 และ/หรือ IPv6

หมายเหตุ: หลังจากเปลี่ยนการตั้งค่า WLAN ให้คลิก บันทึก แล้ว เริ่มการทำงานใหม่ เพื่อตั้งการกำหนดค่า WLAN ใหม่บนอุปกรณ์ VOCOM II และเพื่อเริ่มการทำงานของชุดอินเตอร์เฟส WLAN ด้วยการตั้งค่าใหม่

การใช้ทั้ง VOCOM I และ VOCOM II

ในการใช้ VOCOM I และ VOCOM II จำเป็นต้องมีไดรเวอร์ที่ต้องการที่เลือกไว้อย่างถูกต้องในการตั้งค่า TT:

../images/T0139369.jpg

หมายเหตุ: สำหรับการใช้ USB จะไม่จำเป็นต้องทำการกำหนดค่าใดๆ นอกเหนือจากการเลือกไดรเวอร์ที่ถูกต้อง

สำหรับการใช้ WLAN จะจำเป็นต้องใช้การกำหนดค่าเพิ่มเติมทั้งสำหรับอุปกรณ์ VOCOM I หรือ VOCOM II

การกำหนดค่า VOCOM I WLAN จะทำภายใน Tech Tool ดูบทที่ โหมด WLAN เมื่อมีการกำหนดอุปกรณ์ VOCOM I สำหรับ WLAN มากกว่าหนึ่งอุปกรณ์ จะจำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องไว้ เพื่อแจ้งให้แอพพลิเคชั่นทราบว่าจะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด

การกำหนดค่า VOCOM II WLAN จะทำภายนอก Tech Tool โดยใช้แอพพลิเคชั่นการกำหนดค่า VOCOM II ดูบทที่ การตั้งค่า WLAN เมื่อมีการกำหนดอุปกรณ์ VOCOM II สำหรับ WLAN มากกว่าหนึ่งอุปกรณ์ จำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้องไว้เพื่อให้แอพพลิเคชั่นทราบว่าจะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใด